การดูแลผิวที่มีร่องรอยของแผลเป็น

วิธีดูแลและรักษารอยแผลเป็นเก่าให้ดูจางลงจากผู้เชี่ยวชาญ

ตรวจทานวันที่: 14.09.2021
5 นาทีที่อ่าน

แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้ชีวิตโดยไม่ได้รับการบาดเจ็บที่ผิวหนังแม้เพียงเล็กน้อย ทั้งที่การบาดเจ็บพวกนี้ก็ไม่ได้มีผลแต่อย่างใด แต่บางทีอาจจะรำคาญที่เห็นรอยแผลเป็นบางจุดบนร่างกาย หรือบางครั้งก็คิดว่าจะลบรอยแผลเป็นพวกนี้ออกไป ลองอ่านดูหากต้องการเรียนรู้วิธีที่จะกำจัดและดูแลรอยแผลเป็นเก่า

  • สามารถดูแลรอยแผลเป็นเก่าให้ได้ผลที่ดี
  • มีผลิตภัณฑ์ดูแลรอยแผลเป็นหลายประเภท
  • อาจใช้เวลาหลายสัปดาห์กว่าจะเห็นผล

 

ในบทความนี้:

  • รอยแผลเป็นเกิดจากอะไร?
  • รอยแผลเป็นแต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไรและจะป้องกันได้อย่างไร?
  • ถ้ามีรอยแผลเป็นเก่า?
  • ข้อควรจำ
  • แหล่งอ้างอิง

รอยแผลเป็นเกิดจากอะไร?

เมื่อผิวได้รับบาดเจ็บไม่ว่าจากของมีคม การผ่าตัด ไฟไหม้น้ำร้อนลวก หรือสิวก็ตาม มักเกิดรอยแผลเป็นขึ้นตามธรรมชาติที่เป็นผลจากกระบวนการสมานผิว รอยแผลเป็นเกิดจากคอลลาเจนส่วนเกินที่ถูกผลิตขึ้นตรงจุดที่ได้รับการบาดเจ็บ [1]

มีรอยแผลเป็นหลายชนิดที่แตกต่างกันซึ่งเกิดขึ้นจากเหตุผลที่ไม่เหมือนกัน ปัจจัยที่ส่งผลต่อรอยแผลเป็นแต่ละชนิดที่จะเกิดขึ้นกับแต่ละคนรวมถึงประวัติในครอบครัว ประเภทของผิวและพันธุกรรม[5]

ซึ่งได้แก่:

  • รอยแผลเป็นแบบนูนโตและแบบคีลอยด์เป็นผลที่พบได้ทั่วไปจากการบาดหรือการกรีดที่ผิวผนัง – ไม่ว่าจากการผ่าตัดหรือการบาดเจ็บ [2]
  • รอยแผลเป็นแบบหลุมและแบบหดรั้งเป็นผลที่พบได้ทั่วจากสิวและไฟไหม้น้ำร้อนลวกตามลำดับ[2,3,4] 

วิธีแก้ไขที่ดีที่สุดสำหรับรอยแผลเป็นคือการป้องกัน – การดูแลผิวที่ได้รับการบาดเจ็บให้ดีจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดเพื่อป้องกันไม่ให้เห็นรอยแผลเป็นได้ชัด รอยแผลเป็นขนาดเล็กที่เกิดจากแผลที่ได้รับการรักษาอย่างดีมีโอกาสที่จะจางหายไปได้ด้วยตัวเองขณะที่รอยแผลเป็นกว้างที่เกิดจากแผลที่ไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องจะใช้เวลานานกว่าจะดูจางลง การรักษาแผลให้สะอาด, ชุ่มชื้นและป้องกันไม่ให้โดนแสงแดดอยู่เสมอจะลดการเกิดรอยแผลเป็น เป็นความคิดที่ดีที่จะทานอาหารสมส่วนและเลี่ยงการสูบบุหรี่[6]

 

ถ้ามีรอยแผลเป็นเก่า?

ยิ่งทิ้งไว้นานกว่าจะเริ่มดูแลรอยแผลเป็น ก็ยิ่งต้องใช้เวลาและความพยายามมากขึ้นในการลดเลือนรอยแผลเป็น[9]

รอยแผลเป็นแบบนูนโต (หนา กว้าง ส่วนมากจะนูน) มักปรากฏขึ้นหลายสัปดาห์หลังจากเกิดแผล และอาจจางลงด้วยตัวเองถึงระดับหนึ่ง

รอยแผลเป็นแบบคีลอยด์ (เรียบ แข็ง และอยู่นอกขอบแผล) ปรากฏขึ้นในภายหลัง และอาจแผ่ขยายแบบไม่มีขอบเขต[7] รอยแผลเป็นสองชนิดนี้เกิดจากการตอบสนองที่ผิดปกติระหว่างแผลสมานตัว [8] รอยแผลเป็นแบบหดรั้งเกิดขึ้นเมื่อผ่านไประยะหนึ่งโดยเฉพาะเมื่อการบาดเจ็บ โดยเฉพาะแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวกที่เกิดขึ้นบนหรือใกล้ข้อต่อ[4]

สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ชนิดเดียวกันสำหรับรอยแผลเป็นใหม่และเก่า แต่ถ้ายิ่งปล่อยไว้นานกว่าจะเริ่มดูแลรอยแผลเป็น ก็จะยิ่งต้องใช้เวลาและความพยายามมากขึ้นเพื่อได้ผลที่เห็นได้ชัด [9]

มีวิธีแก้ปัญหาแบบล่วงล้ำเข้าในร่างกายหลายชนิด แต่ต้องผ่านแพทย์โรคผิวหนังหรือศัลยแพทย์ตกแต่งเท่านั้น แต่ก็มีวิธีแก้ปัญหาหลายประเภทที่หาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไปที่สามารถช่วยได้ เช่น ว่านหางจระเข้, สารสกัดจากชาเขียวหรือหัวหอม เช่น ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีร่องรอยของแผลเป็นของ Mederma®

การดูแลผิวที่มีร่องรอยของแผลเป็นเก่าก็ไม่ต่างจากวิธีดูแลผิวที่มีร่องรอยของแผลเป็นใหม่ ที่แตกต่างกันอย่างมากก็คือระยะเวลาในการดูแล

ระยะเวลาที่แนะนำโดยผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีร่องรอยของแผลเป็นของ Mederma® อาจใช้เวลาถึง 6 เดือน หรือใช้เวลา 8 สัปดาห์สำหรับผิวที่มีร่องรอยของแผลเป็นใหม่ ขณะทา สามารถนวดผิวที่มีร่องรอยของแผลเป็นของคุณได้เลยเหมือนที่ทำกับผิวที่มีร่องรอยของแผลเป็นใหม่ อาจรู้สึกว่าผิวที่มีร่องรอยของแผลเป็นเก่าจะแข็งกว่า  การนวดจะช่วยลดความตึงได้และช่วยคืนความนุ่มนวล[7]

Mederma® Intense Scar Gel เจลช่วยลดร่องรอยแผลเป็นให้แลดูจางลงด้วยส่วนผสมของมอยเจอร์ไรเซอร์

  • ช่วยบำรุงผิวที่มีร่องรอยของแผลเป็นให้แลดูจางลง จนคุณสังเกตเห็นได้ถึงความเปลี่ยนแปลง
  • สูตรที่ให้ผลดีสามประการซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ถูกออกแบบเพื่อแทรกซึมเข้าใต้ผิว
  • ใช้เพียงวันละครั้ง

ซื้อวันนี้

ข้อควรจำ

การดูแลรอยแผลเป็นเป็นกระบวนการที่ใช้เวลายาวนานโดยเฉพาะสำหรับรอยแผลเป็นเก่า ความอดทนและความสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญ แต่มีแนวโน้มที่ร่องรอยและสัมผัสของรอยแผลเป็นจะดีขึ้นเรื่อยๆ

โปรดอย่าลืมว่า:

  • ดูแลผิวที่ได้รับบาดเจ็บให้ดี
  • ทำให้รอยแผลเป็นชุ่มชื้นอยู่เสมอ
  • ลดความตึงด้วยการนวดและการทาผลิตภัณฑ์อย่างสม่ำเสมอ

แหล่งอ้างอิง:

คุณถูกใจบทความของเราหรือไม่ โปรดบอกฉันถ้าบทความนี้มีประโยชน์กับคุณ
กลับไปด้านบน